https://10.6.58.209/th/articles/howto_register_MHA_member
Related Posts
ที่ร้านขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โฆษณาเรียกลูกค้าได้หรือไม่
เข้าสู่ช่วงเทศกาลแห่งการฉลองช่วงปลายปีต่อด้วยปีใหม่ เป็นช่วงเวลาสำคัญของการทำเงินสำหรับร้านอาหารอีกช่วงหนึ่ง แม้ว่าปีนี้จะมีสถานการณ์วิกฤตโรคระบาดส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตและรายได้ของผู้คน แต่ก็เชื่อว่าเมื่อถึงเวลาปลายปีการเดินทางท่องเที่ยว หรือการเลี้ยงฉลองก็จะกลับมาคึกคักเช่นที่ผ่านมา และแน่นอนว่าหนึ่งในสิ่งที่มาคู่กันกับช่วงเทศกาลโดยเฉพาะปลายปีอากาศเย็น ๆ แบบนี้ก็คือ เครื่องดื่มกลุ่มแอลกอฮอล์ทั้งหลาย ที่ตอนนี้ผู้ประกอบการไม่น้อยอาจมีคำถามว่า ร้านเราจะสามารถโฆษณาขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้หรือไม่ เพราะเห็นมีข่าวว่าห้ามโฆษณาแล้วแบบนี้จะทำอย่างไรจึงจะบอกลูกค้าให้รู้ว่าร้านเรามีโปรเด็ดโปรดีหรือมีประเภทเครื่องดื่มสายแอลแบบเจ๋ง ๆ รอให้บริการ มาดูแนวทางที่ไม่เสียงผิดกฎหมายกัน ม.32 ประเด็นสำคัญของพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 เมื่อประเด็นมันเกี่ยวข้องกับกฎหมาย เราก็ต้องเริ่มต้นว่าด้วยเรื่องกฎหมายที่เกี่ยวของกับการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กันก่อน นั่นก็คือพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 ซึ่งหนึ่งในมาตราที่มีการถกเถียงกันมากที่สุดประเด็นหนึ่งของพรบ.นี้ก็คือมาตรา 32 ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับการโฆษณาประชาสัมพันธ์ใจความของมาตรา 32 มีว่า ห้ามมิให้ผู้ใดโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือแสดงชื่อหรือเครื่องหมายของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นการอวดอ้างสรรพคุณหรือชักจูงใจให้ผู้อื่นดื่มโดยตรงหรือโดยอ้อม การโฆษณาหรือประชาสัมพันธ์ใด ๆ โดยผู้ผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกประเภทให้กระทำได้เฉพาะการให้ข้อมูลข่าวสาร และความรู้เชิงสร้างสรรค์สังคม โดยไม่มีการปรากฎภาพของสินค้าหรือบรรจุภัณฑ์ของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้น เว้นแต่เป็นการปรากฏภาพของสัญลักษณ์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือสัญลักษณ์ของบริษัทผู้ผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เท่านั้น ทั้งนี้ตามที่กำหนดในกระทรวง บทบัญญัติวรรคหนึ่งและวรรคสอง มิให้บังคับกับการโฆษณาที่มีต้นกำเนิดนอกราชอาณาจักร โดยบทลงโทษของมาตรานี้คือ จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แกะความตามตัวกฎหมายจะเห็นแนวทางปฏิบัติที่ปลอดภัย เมื่อกฎหมายกำหนดไว้ชัดเจนในการกระทำได้และไม่ได้ไว้แบบนี้ ถ้าเราแกะความตามตัวอักษรดูความหมายแต่ละคำ ๆ ก็จะเห็นช่องทางให้ทำการประชาสัมพันธ์โดยไม่ผิดกฎหมายอย่างชัดเจน ซึ่งสาระสำคัญของมาตรา 32 อยู่ที่ ห้ามมิให้ผู้ใดโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือแสดงชื่อหรือเครื่องหมายของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นการอวดอ้างสรรพคุณหรือชักจูงใจให้ผู้อื่นดื่มโดยตรงหรือโดยอ้อม ทั้งนี้จากการเปิดเผยข้อมูลของนพ.นิพนธ์ ชินานนท์เวช ผอ.สำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลก อฮอล์ (สคอ.) กรมควบคุมโรค ถึงกรณีกระแสข่าวที่มีการตีความมาตรา 32 ไปในแนวทางที่คลาดเคลื่อนว่า แม้แต่การมีรูปประชาชนทั่วไปถือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โพสต์ขึ้นตามสื่อโซเชียลก็เป็นความผิดนั้น ตามหลักความเป็นจริงแล้ว ในมาตรา 32 ระบุใจความสำคัญไว้ 2 ส่วนด้วยกัน คือ ห้ามโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อประโยชน์ในทางการค้า เช่น การโพสต์ภาพเหล้าเบียร์พร้อมข้อความต่าง ๆ เพราะต้องการที่จะขายสินค้าเหล้าเบียร์นั้น ๆ รวมถึงการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายต่าง ๆ ห้ามแสดงชื่อหรือเครื่องหมายของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พร้อมกับการมีข้อความหรือพฤติการณ์ที่เป็นการอวดอ้างสรรพคุณหรือชักจูงใจให้คนอื่นอยากจะดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ดังกล่าว ดังนั้น การที่ประชาชนโพสต์ภาพขวดเหล้าเบียร์ หรือแก้วเบียร์ที่มีโลโก้เบียร์ จึงยังไม่ใช่ความผิดตามกฎหมายนี้ แต่หากเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง เช่น ดารา นักแสดง จะแตกต่างจากประชาชนทั่วไป เพราะบุคคลเหล่านั้นมีอิทธิพลต่อการชักจูงใจผู้พบเห็นได้ ก็จะเข้าข่ายกระทำความผิด แนวทางโฆษณาขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่ผิดกฎหมาย ห้ามใช้ภาพ สื่อของบุคคลผู้มีชื่อเสียงมาทำการประชาสัมพันธ์ ห้ามเอ่ยถึงชื่อ ยี่ห้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้น ๆ ห้ามบรรยายสรรพคุณของเครื่องดื่มยี่ห้อนั่น ๆ ห้ามโฆษณาโปรโมชั่นส่วนลดของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ระบุชื่อยี่ห้อชัดเจน ดังนั้น จริง ๆ แล้วเราสามารถทำการโฆษณาด้วยชื่อแบรนด์ แต่ไม่ได้ระบุว่าเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือการทำภาพประกอบเป็นรูปขวดที่ไม่มียี่ห้อ ไม่มีคู่สีที่บ่งบอกว่าเป็นแบรนด์อะไรแต่รู้ว่ามันคือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เช่นเดียวกับการทำเป็นรูปแก้ว รูปเหยือก 2 เหยือก+1เหยือก ฟรี เป็นต้น กฎหมายว่าอย่างไรเราก็ต้องทำตามกฎหมาย แบรนด์ใหญ่ทำประชาสัมพันธ์อย่างไรเราก็ดูเป็นตัวอย่างและนำมาปรับใช้ เพราะสำหรับนักดื่มสายแอลแล้วละก็ เชื่อเถอะว่าจะเข้าใจความหมายกันดี คลิกอ่านบทความอื่น ๆ ได้ที่นี่ รู้ก่อนพลาด ! เตรียมให้พร้อม ก่อนเปิดขายแฮลกอฮอล์ในร้านอาหาร กฎหมายร้านอาหาร ที่ผู้ประกอบการควรรู้ และไม่ควรมองข้าม! เปิดร้านอาหาร ต้องจดทะเบียนร้านอย่างไร? คลิกอ่านบทความน่ารู้ จากแม็คโคร โฮเรก้า อคาเดมี มือใหม่เปิดร้านอาหาร การจัดการร้านอาหาร การตลาดเพื่อธุรกิจร้านอาหาร บทสัมภาษณ์และรีวิว การเลือกวัตถุดิบและอุปกรณ์ สูตรอาหาร Zero food waste
Learn moreพาสต้ามาแรง! สารพัดเส้นร้านคุณก็เสิร์ฟได้ สปาเกตตี้ ลิงกวิเน ฟูชิลี มักกะโรนี เฟตตูชินีหมึกดำ
เชื่อว่าเมนู “พาสต้า” หรือที่เราคุ้นเคยกันเรียกจนติดปากว่า “สปาเกตตี้” เป็นหนึ่งในเมนูโปรดของใครหลายๆ คน และเป็นเมนูโปรดสำหรับเจ้าของร้านอาหารด้วย เพราะเป็นเมนูหน้าตาดี ขายง่าย ใส่ Topping ได้หลากหลายทำให้ขายได้ราคา ไม่ว่าร้านอาหาร หรือร้านกาแฟ คาเฟ่ ก็สามารถขายเมนูพลาสต้าได้ และในเวลานี้ร้านพาสต้ากำลังเป็นกระแสฮิตติดเทรนด์ ร้านของคุณเองก็สามารถเสิร์ฟเมนูพาสต้า หรือสปาเกตตี้ได้ ทำความรู้จักกับพาสต้า พาสต้า เมื่อกล่าวถึงก็จะทราบได้ทันทีว่าเป็นอาหารอิตาเลียน ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากประเทศอิตาลี การเดินทางของสปาเก็ตตี้ผ่านห้วงเวลาและปรับเปลี่ยนเข้าสู่วัฒนธรรมการกินอื่นๆ ทำให้สปาเก็ตตี้ได้รับการปรับเปลี่ยนให้หลากหลายมากยิ่งขึ้น เพราะฉะนั้นเราจึงเห็นสปาเก็ตตี้สไลต์อิตาเลียน สไตล์ญี่ปุ่น หรือสไตล์ไทยๆ เส้นพาสต้าสามารถนำมาดัดแปลงให้ถูกปากคนไทยมากยิ่งขึ้น ร้านอาหารสามารถนำเสนอให้แตกต่างจากความคุ้นชินเดิมๆ ได้ เช่นสปาเก็ตตี้ผัดขี้เมา มักกะโรนีต้มยำกุ้ง และสปาเก็ตตี้แกงเขียวหวาน นอกจากจะเป็นเมนูใหม่สร้างสรรค์ขึ้นเพิ่มเติมในร้านอาหารแล้ว ยังสามารถเปิดเป็นร้านสปาเกตตี้โดยเฉพาะก็ได้ เพราะเส้นและซอสที่หลากหลาย และยังเป็นเมนูนึงที่สามารถเปิดบูธในงาน Event ได้อีกด้วยทั้งแบบต้มเส้นและตักซอสราด หรือต้มเส้นและผัดสไตล์ไทยๆ เพราะฉะนั้นเมนูพาสต้าเป็นเมนูที่เจ้าของร้านอาหารต้องลองลงมือทำ! เส้นพาสต้านำเข้าจากอิตาลี ลาโมลิซาน่า สำหรับผู้ที่ชื่นชอบพาสต้าน่าจะคุ้นเคยกันดีกับ ลาโมลิซาน่า เพราะเป็นเส้นพาสต้าที่นำเข้าจากอิตาลี โดยตัวเส้นผลิตจากแป้งสาลี ดูรัม (Durum Wheat) ที่จะได้รสชาติมีความเฉพาะตัว ลาโมลิซาน่าเป็นชนิดเส้นแห้ง สะดวกต่อการนำไปใช้ในการประกอบอาหาร โดยเฉพาะร้านอาหารซื้อหาได้ง่าย ง่ายต่อการเก็บรักษา สามารถนำมาต้มเมื่อมีออเดอร์ได้ ตัวเส้นมีขนาดได้มาตรฐาน มีสีเหลืองนวลสม่ำเสมอเท่ากันทุกเส้น นอกจากนี้เนื้อเส้นของพาสต้ายังมีสัมผัสที่เหนียวนุ่ม เข้ากันได้ดีกับซอสหลากหลายชนิด หรือจะนำไปทำอาหารประเภทผัดก็มีรสชาติที่ดีเช่นกัน เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะร้านของคุณจะเสิร์ฟใน สไลต์อิตาเลียน สไตล์ญี่ปุ่น หรือสไตล์ไทยๆ ลาโมลิซาน่า ก็สามารถให้รสชาติที่อร่อยกลมกล่อมได้ ทำความรู้จัก เส้นสปาเกตตี้ สำหรับ สปาเก็ตตี้ (Spaghetti) ที่เราคุ้นเคยนั้น แท้จริงแล้วเป็นหนึ่งในประเภทเส้นพาสต้า เส้นพาสต้ามีมากกว่า 500 แบบ และแต่ละแบบก็มีชื่อเรียกต่างกันไป นอกจากเรื่องความสวยงามแล้ว รูปทรงที่ซับซ้อนถูกออกแบบมาเพื่อให้เส้นสามารถอุ้มซอสได้ดีกว่า สำหรับเส้นสปาเกตตี้ มีลักษณะกลมเป็นเส้นเล็กที่เรียวยาว สามารถเข้ากับซอสได้หลากหลายชนิด ทานคู่กับซอสมะเขือเทศเข้มข้นเป็นเมนูคุ้นเคยดีสำหรับคนไทย, คาโบนาร่า หรือแบบไทยๆ จะนำไปผัดกระเพรา, ผัดขี้เมา, ผัดปลาเค็ม, ผัดปลาสลิด ก็อร่อยไม่แพ้สไตล์อิตาเลียน เลือกซื้อ ลาโมลิซาน่า สปาเก็ตตี้ ได้อย่างสะดวกสบายที่ Makro Click คลิกเลย เส้นพลาสต้ายอดฮิต ที่ร้านต้องมี! เส้นพาสต้าทำมาจากแป้งเป็นหลักจึงไม่มีรสชาติใดเป็นพิเศษ แต่มีความเหนียวนุ่ม ทำให้เวลารับประทานจะมักนำไปคลุกซอสก่อน และซอสสำหรับพลาสต้าก็มีหลากหลายรูปแบบเช่นกัน ลิงกวิเน (Linguine) มีความคล้ายกับเส้นสปาเก็ตตี้ แต่มีความกว้างและแบนกว่า ลิงกวินีมีความกว้างประมาณ 6-9 มิลลิเมตร เป็นเส้นที่นิยมนำมาทานคู่กับซอสที่เป็นน้ำมันทั้งหลาย เช่น ผัดกับน้ำมันมะกอก, ผัดกับน้ำมันโหระพา หรือผัดกับเครื่องทะเล เลือกซื้อ ลิงกวิเน่#6 ลาโมลิซาน่า ได้อย่างสะดวกสบายที่ Makro Click คลิกเลย ฟูชิลี (Fusili) พาสต้าแบบเกลียวสั้น ปกติมักจะทำให้มีความหนามากกว่าพาสต้าอื่นๆ นิยมนำมาอบชีสและอบซอสชนิดต่างๆ ตัวเกลียวของฟูชิลีเองก็กินพื้นที่พอสมควรจึงต้องมีเนื้อแป้งที่หนากว่าเส้นแบบอื่น ซึ่งฟูชิลีนั้นมักพบการผสมผักต่างเข้าไปเพื่อเพิ่มสีสันของเส้นด้วย เช่น บีทรูท มะเขือเทศ หรือผักโขม เลือกซื้อ ฟูซิลี่#28 ลาโมลิซาน่า ได้อย่างสะดวกสบายที่ Makro Click คลิกเลย มักกะโรนี (Macaroni) พาสต้าทรงกระบอกสั้นและมีความโค้งมน ในต่างประเทศนำมักกะโรนีมาอบกับชีส ในไทยนำมาดัดแปลงได้หลากหลายเมนู เช่น มักกะโรนีผัดซอส ต้มมักกะโรนีน้ำใส เลือกซื้อ ลาโมลิซาน่า สปาเก็ตตี้ ของเบอร์ 70 ได้อย่างสะดวกสบายที่ Makro Click คลิกเลย เฟตตูชินีหมึกดำ (Squid Ink Fettuccine) มีความแบนและกว้างกว่าลิงกวินี โดยปกติเฟตตูชินีมีแบบที่เป็นสีเหลืองนวลด้วยเช่นกัน นิยมรับประทานคู่กับซอสที่มีความเข้มข้น เช่น คาโบนารา โบโลเนส หรือ ซอสครีมเห็ด เมื่อเป็น เฟตตูชินีหมึกดำ ก็เส้นพาสต้าแบบแบนที่ผสมหมึกของปลาหมึกลงไปทำให้มีสีดำและยังได้รสชาติเข้มข้นและมันของหมึกด้วย ความน่ารับประทานของเมนูนี้คือสีสันของวัตถุดิบที่ใส่ลงไปตัดกับสีดำของเส้น เช่น พาสต้าหมึกดำผัดหอยแมลงภู่ เลือกซื้อ ลาโมลิซาน่า เส้นพาสต้าหมึกดำ ได้อย่างสะดวกสบายที่ Makro Click คลิกเลย
Learn moreร้านขายดี เพราะยิงโฆษณาแบบนี้นี่เอง! เหมาะกับร้านขนาดเล็ก หรืองบน้อยก็ปังได้
โพสต์ Facebook แล้วก็ยังขายไม่ดี ลองยิงโฆษณาดูสักทีอาจจะขายดีขึ้นก็ได้ วันนี้ MHA ขอลงรายละเอียดเรื่องเทคนิคการยิงโฆษณาสำหรับร้านอาหาร ที่ว่ากันว่าถ้าลงโฆษณา Facebook แบบนี้แล้วร้านจะขายดีขึ้นอย่างมากด้วยงบการลงโฆษณาที่ไม่ได้มากมายอะไร และเป็นวิธีที่เหมาะกับร้านอาหารขนาดเล็กเป็นอย่างมาก ก่อนอื่นเราต้องทำความเข้าใจก่อนว่า การยิงโฆษณาในที่นี้หมายถึงการ Boost หรือการจ่ายเงินเพื่อให้มียอดการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้นนั่นเองสำหรับ Facebook นั้นมีการ Boost ในหลายรูปแบบเช่นการ Boost page เพื่อให้มีคนติดตามเพจมากขึ้น หรือการ Boost post ที่เน้นให้แต่ละโพสต์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากกว่า ซึ่ง MHA จะขอกล่าวถึงการ Boost post เป็นหลัก เนื่องจากเป็นการยิงโฆษณาที่เหมาะกับร้านอาหารมากกว่า โดยสอดคล้องกับการทำ Content Marketing ของร้านอาหารอีกด้วย โดยเริ่มต้นจาก 1.ทำ Content อาหารในรูปแบบอัลบั้มภาพ(Photo Album) เพราะในเชิงจิตวิทยาแล้วเมื่อลูกค้าคลิกดูรูปอาหารไปเรื่อยๆ จะให้ให้เกิดความรู้สึกอยากทานอาหารมากกว่าการดูรูปอาหารเพียงรูปเดียว ดังนั้นในการ post ควรโพสต์เป็นอัลบั้มมากกว่า โดยสามารถนำเมนูหลายๆอย่างในร้านมาลงในอัลบั้ม หรือถ้าจะแนะนำเมนูเดียวให้ลองลงขั้นตอนการทำเมนูนั้นๆ โดยลงรูปตั้งแต่ 4-5 รูปขึ้นไป แต่ต้องมีการลงภาพปก(รูปแรก)ที่น่าสนใจ และมีเทคนิคในการใส่ข้อความ ซึ่งจะอธิบายในลำดับถัดไป เพิ่มเติมถ้าร้านอยู่ในตลาด, Community mall หรือ อาคารสถานที่ใดๆ และสถานที่นั้นมี Facebook Page ให้ใช้วิธีการ Tag สถานที่นั้นลงไปในโพสต์ด้วย หรือใช้วิธีTagเพื่อนใน Comment ของเราก็ได้ รวมถึงอาจใช้การส่งเสริมการขายมากระตุ้นให้ผู้ที่เห็นโพสต์สามารถ Tag เพื่อนใน Facebook เพื่อรับส่วนลดจากทางร้าน ซึ่งจะช่วยให้โพสต์ของเราสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายผ่านการ Tag หรือ การ Share ได้กว้างขึ้นไปอีก 2. การทำ Photo Album ควรคำนึงถึงขนาดภาพด้วยเช่นกัน ซึ่งประกอบด้วยภาพปก (Cover) และภาพอื่น ๆ ที่อยู่ในอัลบั้มภาพ โดยทั่วไปขนาดภาพปกจะขึ้นอยู่กับการวางรูปและจำนวนรูปภาพในอัลบั้ม ซึ่งขนาดและการจัดวางที่นิยมใช้ ได้แก่ - ภาพปกแบบแนวนอน + ภาพในอัลบั้มอีกไม่เกิน 2 ภาพ ซึ่งขนาดภาพปกจะอยู่ที่ 1200x600 pixelภาพปกแบบนี้จะทำให้รู้สึกสบายตาและเมื่อขึ้นรวมกันเป็นอัลบั้มจะเป็นกลุ่มสี่เหลี่ยมพอดี ส่วนภาพอื่น ๆ ให้เลือกขนาดเป็น สี่เหลี่ยมจัตุรัส หรืออัตราส่วน 1:1 ขนาดไม่เกิน 1200x1200 pixel เพื่อความสะดวกในการดูโพสต์ของกลุ่มเป้าหมาย - ภาพปกแบบแนวนอน + ภาพในอัลบั้มอีก 3 ภาพขึ้นไป ซึ่งขนาดภาพปกจะอยู่ที่ 1200x800 pixel ส่วนภาพอื่น ๆ ยังคงอัตราส่วน 1:1 หรือขนาดไม่เกิน 1200x1200 pixel เมื่อรวมกันเป็นอัลบั้มและจะเป็นกลุ่มสี่เหลี่ยมพอดีเช่นกัน - ภาพปกแบบแนวตั้ง + ภาพในอัลบั้มอีกไม่เกิน 2 ภาพ ซึ่งขนาดภาพปกจะอยู่ที่ 600x1200 pixel ภาพปกแบบนี้จะทำให้รู้สึกแปลกตา เริ่มมีการใช้กันเยอะขึ้นเพราะคนทั่วไปเริ่มเคยชินกับการถ่ายภาพแนวตั้งแล้ว เหมาะกันภาพร้าน ภาพวิว หรือภาพที่มีคนเป็นองค์ประกอบ ส่วนภาพอื่น ๆ ให้เลือกขนาดเป็น สี่เหลี่ยมจัตุรัส หรืออัตราส่วน 1:1 ขนาดไม่เกิน 1200x1200 pixel - ภาพปกแบบแนวตั้ง + ภาพในอัลบั้มอีก 3 ภาพขึ้นไป ซึ่งขนาดภาพปกจะอยู่ที่ 800x1200 pixel ส่วนภาพอื่น ๆ ยังคงอัตราส่วน 1:1 หรือขนาดไม่เกิน 1200x1200 pixel เมื่อรวมกันเป็นอัลบั้มและจะเป็นกลุ่มสี่เหลี่ยมพอดีเช่นกัน 3. สำหรับภาพปกนั้น ให้ลองใส่พิกัดร้านลงไป ไม่ว่าจะระบุไปตรง ๆ เลย หรือใช้การเล่นตัวอักษร เล่นคำก็ตาม ซึ่งจะส่งผลให้ลูกค้าที่อยู่บริเวณใกล้เคียงให้ความสนใจมากขึ้นกว่าเดิม เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับตัวเอง ลองนึกภาพเวลาที่เราอ่านข่าวหรืออ่านเนื้อหาอะไรก็ตามในอินเตอร์เน็ต เราจะให้ความสนใจกับเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับเรามากกว่าเนื้อหาอื่น ๆ ทั่วไป ซึ่งหลักการนี้เราสามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ในการทำพาดหัว หรือ Text ที่อยู่ในภาพปกของอัลบั้มนั่นเอง 4. ขั้นต่อไปให้ลองเลือก Location ในการยิงโฆษณา จริงอยู่แม้ว่าร้านเราจะมีบริการเดลิเวอรี่ ที่ช่วยลดข้อจำกัดเมื่อลูกค้าอยู่ไกลจากร้านมาก แต่อย่างไรก็ดีร้านอาหารแบบทานที่ร้านยังคงต้องอาศัยลูกค้าที่เดินทางมาทานที่ร้านอยู่เช่นกัน ซึ่งลูกค้าที่มีโอกาสในการมาทานอาหารที่ร้านมากที่สุดคือ ลูกค้าที่อยู่บริเวณใกล้เคียงกับร้าน ในระยะไม่เกิน 5-10 กิโลเมตรเพราะเป็นลูกค้ากลุ่มที่เดินทางสะดวกที่สุด ดังนั้นในการตั้งค่า location ในการ Boost ถ้าหากเราจะเน้นให้มีคนเข้าร้านจำนวนมากไว้ก่อน ให้เราตั้งค่าไว้ไม่เกินรัศมี 5 กิโลเมตรจากร้านเรา หลังจากนั้น หากต้องการขยายฐานลูกค้า ค่อยมาปรับการตั้งค่าภายหลังได้ 5. ความถี่ในการมองเห็นโฆษณาก็เป็นเรื่องสำคัญ เป็นการยากมากที่ลูกค้าจะตัดสินใจมาที่ร้านทันทีหลังจากเห็นโฆษณาเพียงครั้งเดียว เพราะต้องผ่านกระบวนการตัดสินใจของลูกค้าก่อน โดยลูกค้าจะดูข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจมาทานที่ร้าน ซึ่งอาจจะใช้เวลาหลายวัน นั่นแปลว่า ในระหว่างที่ลูกค้ายังไม่ตัดสินใจนั้น ลูกค้าอาจจะ “ลืม” โพสต์ของร้านเราไปแล้วก็ได้ ดังนั้นในการยิงโฆษณา จึงไม่ควรยิงแค่ครั้งเดียว หรือแค่ 1 วัน แค่ควรตั้งค่าการยิงโฆษณาประมาณ 1 สัปดาห์ขึ้นไป เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายสามารถเห็นโพสต์ได้อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง หรือวันละครั้งตามแต่งบประมาณ เพราะจะทำให้ลูกค้าเป้าหมายเกิดการจดจำนั่นเอง แต่ก็ไม่ควรโฆษณาถี่เกินไป เพราะลูกค้าจะรำคาญและกดปิดโพสต์ และรายงานโฆษณาของเราในที่สุด 6. อย่าลืมตั้งค่าเป้าหมายในการ Boost เพราะวัตถุประสงค์ในการยิงโฆษณาไม่ได้อยู่ที่การขายของเพียงอย่างเดียว ดังนั้น Facebook จึงออกแบบระบบให้สามารถเลือกวัตถุประสงค์หรือ Goal ในการ Boostแต่ละครั้ง ซึ่งอธิบายตามภาพได้ดังนี้ Automatic : ในกรณีที่ยังนึกไม่ออกว่าจะตั้งค่าเป้าหมายอย่างไรให้เลือกเป็น Automatic ไว้ก่อน Facebook จะทำการเลือกรูปแบบ Goal ที่เหมาะสมให้เอง Get more engagement : เลือกในกรณีต้องการเน้นที่การกด like share และ Comment Get more messages : เหมาะสำหรับกรณีที่ต้องการให้ผู้ที่สนใจทักเข้ามาถามทางข้อความ เหมาะสำหรับร้านที่สามารถตอบคำถามลูกค้าที่สนใจได้ตลอดเวลา Get more website visitors : เหมาะสำหรับร้านที่มีเว็บไซต์อยู่แล้ว และต้องการให้ลูกค้าเข้าสู่เว็บไซต์เพื่อทำการจอง หรือการดูแคตตาล็อคสินค้าเพิ่มเติม Get more leads : ใช้ในกรณีต้องการข้อมูลเพิ่มเติมของลูกค้า โดยจะมีฟอร์มเพิ่มเติมให้ทำ Get more calls : สำหรับลูกค้าที่สะดวกโทรมายังร้านของเรา โดยทั่วไปเรามักจะเลือก Get more engagement เพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วมของกลุ่มเป้าหมาย หรือ Get more messages เพื่อเป็นการดูความสนใจของลูกค้าที่มีต่อโพสต์นั้น ๆ แต่หากยังไม่แน่ใจ ให้เลือกเป็น Automatic ไว้ก่อนก็ได้ คงไม่ยากเกินไปนักสำหรับการยิงโฆษณา Facebook ในระดับเบื้องต้นนี้ น่าจะนำไปปรับใช้กับร้านอาหารแต่ละร้านได้ อย่างไรก็ตามการยิงโฆษณาเป็นเพียงการกระตุ้นให้ลูกค้าเกิดความสนใจในร้านของเราเท่านั้น แต่สิ่งที่จะมัดใจลูกค้าได้ดีที่สุดคือ รสชาติอาหาร การบริการที่ดี และราคาที่สมเหตุสมผลนั่นเองยังมีอีกหลายเทคนิคในการยิงโฆษณาใน Facebook รวมถึงการทำโฆษณาในสื่อ Social อื่น ๆ ซึ่ง MHA จะนำเสนอในคราวต่อไป Credit ภาพ - Facebook.com - เจ๊อิม เผือกหิมะ - หญ้าขาว คาเฟ่ - ปังพระนคร
Learn more