Skip to content

Language

Cart
Checklist วิธีดูแฟรนไชส์ แบบไหนที่ควรซื้อ

Checklist วิธีดูแฟรนไชส์ แบบไหนที่ควรซื้อ

ถ้าคุณอยากจะมีร้านอาหารเป็นของตัวเองสักร้าน แต่ก็ยังไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไรดี ไม่ได้มีสูตรอาหารเด็ด ๆ ความรู้ทางธุรกิจและการตลาดก็ไม่ค่อยมี แต่ก็ไม่อยากเสี่ยงจนเกินตัว และก็ไม่อยากให้เงินลงทุนต้องสูญเปล่า ก็ต้องบอกว่าธุรกิจแฟรนไชส์คือคำตอบที่เหมาะสมกับคุณมาก แต่ถึงแม้ว่าธุรกิจแฟรนไชส์ดูเหมือนจะเป็นทางลัดที่ดี แต่ก็มีข้อควรระวังก่อนที่จะเข้าไปสมัครซื้อแฟรนไชส์กับเจ้าไหน เพราะแฟรนไชส์ไม่ใช่แค่การซื้อสูตรอาหาร หรือยี่ห้อร้านอย่างที่หลาย ๆ คนเข้าใจเท่านั้น แต่จริง ๆ มันคือการซื้อระบบการบริหารงานทั้งหมด คุณจึงควรพิจารณาให้ถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจซื้อแฟรนไชส์   ต่อไปนี้เป็น Checklist วิธีดูแฟรนไชส์ ว่าต้องเป็นแฟรนไชส์แบบไหนกันแน่ที่ควรซื้อ  

  1. มีสินค้าที่เป็นที่นิยมและเหมาะกับทำเลที่อยากเปิด

คงจะเหนื่อยใจไม่น้อย ถ้าคุณทุ่มทุนเปิดร้านในทำเลที่คิดว่าดี แต่กลับไม่มีคนมากิน เพียงเพราะเมนูอาหารในร้าน ไม่เป็นที่นิยมในตลาด พูดง่าย ๆ ว่ามันไม่โดนใจคนแถวนั้น ดังนั้นต้องตรวจสอบให้ดี แฟรนไชส์ที่คุณเลือกซื้อ ต้องมีสินค้าที่เป็นที่นิยมในตลาด และสินค้านั้นต้องเหมาะกับทำเลที่คุณจะเปิดด้วย เช่น ถ้าจะเปิดร้านในพื้นที่โรงเรียน แน่นอนว่ากลุ่มคนที่สัญจรไปมาย่อมเป็นนักเรียน อาจารย์ ผู้ปกครอง สินค้าหรืออาหารที่จะนำมาขาย ก็ควรเป็นสินค้าที่กลุ่มลูกค้าเหล่านี้ต้องการในราคาที่เหมาะสม
  1. มีชื่อเสียง เป็นที่ยอมรับ

แบรนด์ร้านอาหารที่พิสูจน์ให้เห็นอย่างชัดเจนได้ว่า มีลูกค้าเข้าไม่ขาดสาย อาหารอร่อย บริการก็ดี เรียกได้ว่ามีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับ ลูกค้าย่อมพร้อมจะเลือกมากกว่าแบรนด์ที่คนไม่ค่อยรู้จัก แถมยังสามารถต่อยอดได้ง่ายกว่า  เช่น ออกเมนูอะไรใหม่ ๆ มา คนก็พร้อมจะมาลอง เพราะเชื่อฝีมืออยู่แล้วนั่นเอง เช่นเดียวกัน เวลาเลือกจะซื้อแฟรนไชส์ คุณก็ควรเลือกแฟรนไชส์ที่มีชื่อเสียง โดยต้องไม่ใช่แค่มีชื่อเสียงในระดับจังหวัด หรือแค่พื้นที่หนึ่ง ๆ แต่ควรมีชื่อเสียงในระดับประเทศด้วย ไม่เช่นนั้นจะจำกัดทำเลในการเปิดร้านของคุณมากเกินไป  
  1. มีการทำการตลาดให้แบรนด์

ในภาวะที่ธุรกิจแข่งขันกันสูงเช่นปัจจุบัน แฟรนไชส์ที่ดีควรทำการตลาดให้แบรนด์อย่างสม่ำเสมอไม่ขาดสาย เพราะนอกจากจะทำให้แบรนด์อยู่รอดในตลาดได้ ยังช่วยให้ผู้ซื้อแฟรนไชส์ทุกสาขาสามารถเพิ่มยอดขายและขยายกิจการได้ดีขึ้นด้วย ดังนั้น คุณควรเลือกแฟรนไชส์ที่มีแผนทำการตลาดให้แบรนด์เท่านั้น ไม่ใช่แค่ขายแฟรนไชส์ให้แล้วจบเลย 
  1. มีมาตรฐานการทำงานที่ชัดเจน

ปัญหาหลัก ๆ ในการเปิดร้านอาหาร คือเรื่องระบบในการทำงาน ยกตัวอย่างเช่น ต้องจัดวางร้านในลักษณะไหน ต้องใช้ซอฟต์แวร์อะไรในการจดรับอาหาร ต้องมีพนักงานบริกรกี่คนต่อจำนวนโต๊ะที่มีทั้งหมด เวลาทั้งหมดในการรับและเสิร์ฟลูกค้า รวมไปถึงสูตรอาหารและการควบคุมให้ร้านเป็นไปในแนวทางที่กำหนด ซึ่งตรงนี้หากระบบไม่ดีจริง ก็จะทำให้ทั้งร้านรวน จนไปถึงประกอบกิจการไม่ได้ไปเลยก็มี เพื่อลดภาระน่าปวดหัวนี้ คุณจึงควรเลือกแฟรนไชส์ที่มีมาตรฐานการทำงานชัดเจน มีสูตรอาหาร การบริหารจัดการร้าน และวิธีปฏิบัติงานเป็นขั้นตอนอย่างละเอียด  
  1. มีระบบการเทรนนิ่งให้ผู้ซื้อแฟรนไชส์

โดยปกติ การเปิดร้านอาหารใหม่ ๆ ต้องลองผิดลองถูกมากมาย และมักเกิดปัญหาที่อยู่นอกเหนือแผนการที่วางไว้ แฟรนไชส์ที่คุณเลือก จึงควรมีระบบการเทรนนิ่ง ทั้งการปรุงอาหารชนิดนั้น ๆ การบริการลูกค้า การรับมือกับปัญหา รวมไปถึงวิธีบริหารจัดการร้าน โดยต้องพร้อมสอนผู้ซื้อแฟรนไชส์ รวมถึงเปิดโอกาสให้สอบถามได้ตลอด เพื่อคุณจะได้ไม่ต้องลองผิดลองถูกเองทุกอย่าง ซึ่งจะเป็นการเสียเวลาและพลังงานโดยใช่เหตุ
  1. มีระบบตรวจสอบมาตรฐานร้านแฟรนไชส์

ปัญหาใหญ่ของร้านอาหารที่มีหลายสาขา คือ ถ้ามีสาขาใดสาขาหนึ่งทำเสียหาย เช่น รสชาติไม่อร่อย ไม่คงที่ บริการไม่ดี ผิดพลาดบ่อย จะส่งผลต่อชื่อเสียงของแบรนด์ทั้งหมด และย่อมส่งผลต่อร้านสาขาอื่นทุกสาขา สร้างความเสียหายให้ผู้ซื้อแฟรนไชส์ทุกคน ดังนั้น แฟรนไชส์ที่คุณเลือก ควรมีระบบตรวจสอบมาตรฐานร้านแฟรนไชส์ทุกสาขา เพื่อรักษามาตรฐาน และชื่อเสียงของแบรนด์ไว้   ทั้ง 6 ข้อนี้เป็น Checklist ที่ใช้งานไม่ยาก แต่ช่วยคุณได้มหาศาล คุณจะสามารถเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ได้ดีขึ้น ลดโอกาสการโดนหลอก และไม่ทำให้เงินลงทุนคุณสูญเปล่าโดยใช่เหตุ ลองนำไปปรับใช้กันดู    
Previous Post Next Post