
- มองให้เห็นโอกาส เมื่อ COVID-19 พาให้ทุกคนเท่ากันหมด
- เข้าใจจิตใจตัวเองและเบสิกกฎ 100% เพิ่มโอกาสชนะ
- ต้องเข้าใจลูกค้าและเข้าใจความรู้ใหม่ที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน
- กรณีศึกษาในการปรับตัวของแบรนด์ดัง

- เข้าใจจิตใจของตัวเอง ต้องเอาทัศนคติเชิงลบออก แล้วเอาความเข้มแข็งออกมา เศร้าได้ ท้อได้ งงได้ แต่ต้องหาทางไปเรื่อยๆ จนเจอช่องทางของตัวเอง
- เข้าใจกฏ 100% พื้นฐานของการทำธุรกิจร้านอาหาร ประกอบด้วย Cost of Goods (COG) หมายถึงค่าวัตถุดิบ หรือ Food Cost 35% Cost of Labels (COL) ค่าแรงงาน 15%
- ค่าเช่าพื้นที่ 15%
- เบ็ดเตล็ด 15%

ต้องเข้าใจลูกค้าและเข้าใจความรู้ใหม่ที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน
โลกยุค COVID-19 ก่อให้เกิดการใช้ชีวิตที่แตกต่างไปจากที่เป็นมา บางอย่างต้องปรับเปลี่ยนเพื่อให้เข้ากับความเป็นไปจนเกิดเป็น New Normal นั่นหมายความว่าทุกคนต้องเรียนรู้ที่จะปรับตัว และทำความเข้าใจความรู้ใหม่ที่เกิดขึ้น ร้านอาหารก็เช่นเดียวกันต้องแสวงหาความรู้ใหม่อยู่ตลอดเวลา และนำมาปรับเปลี่ยนภายใต้กฎพื้นฐาน และนี่ก็คือประการที่ 3 เข้าใจลูกค้า และความรู้ใหม่ที่เกิดขึ้น ทุกร้านต้องส่ง Delivery ต้องเอาตัวเองเข้าไปอยู่ใน Delivery Platform ให้ได้ และเข้าใจว่าเข้าไปแล้ว Cost จะสูงขึ้น หรือต้องส่ง Delivery ให้ได้ ต้องเข้าใจลูกค้าให้ได้ก่อน การทำธุรกิจคือต้องเข้าใจธรรมชาติของลูกค้า ต้องเข้าใจว่าลูกค้าของเราคือใคร รวมถึงเข้าใจว่าความคาดหวังของธุรกิจร้านอาหารจะต่างกับธุรกิจอื่น เพราะร้านอาหารถูกคาดหวังว่าทุกอย่างมันต้องเหมือนเดิม ทั้งรสชาติ คุณภาพ และหน้าตาอาหาร สิ่งหนึ่งที่ต้องบริหารสำหรับ Delivery คือความคาดหวังของลูกค้าต้องเหมือนเดิมกับหน้าร้าน ทางนึงที่ทำกันคือสร้างเมนูใหม่เพื่อ Delivery ไปเลย ตัวตนบนโลกออนไลน์ธรรมชาติของคนไม่สามารถที่จะสั่งอาหาร Delivery ได้ทุกมื้อ และเมื่อจะสั่งแล้วก็มีหลากหลายร้าน รวมทั้งโฮมคุกกิ้งก็เป็นอีก Trends ที่กำลังมา ฉะนั้นร้านต้องเป็นที่จดจำ อยากกินสิ่งนี้ต้องสั่งร้านนี้ ทำอย่างไรจะสามารถทำให้ลูกค้าผูกพันสั่งอาหารของเราได้ตลอด ทำอย่างไรถึงสามารถไปอยู่ในหน้าฟีดได้ และมากกว่านั้นทำอย่างไรให้เป็นจดจำและนึกถึงได้ ทำอย่างไรเมื่อเปิดรับลูกค้าได้เพียง 1 ใน 3 เพราะว่าที่นั่งต้องมีการเว้นระยะห่างอย่างน้อย 1.5 เมตร ทำให้ความสามารถในการรับลูกค้านั่งในร้านลดลง บวกกับลูกค้ามั่นใจจะมาใช้บริการที่ร้านก็จะถูกลดลงเช่นกัน “หลัง COVID-19 จะไม่เหมือนอีกต่อไป เพราะพฤติกรรมคนเปลี่ยน เราต้องเข้าใจลูกค้าเราและเข้าใจความรู้ใหม่ที่เกิดขึ้น Delivery ที่ใช้ Platform หรือ Delivery ที่ไม่ใช้ Platform และการปรับเปลี่ยนสูตร กฎ 100% ใหม่”

กรณีศึกษาในการปรับตัวของแบรนด์ดัง
ด้วยความที่คลุกคลีกับเจ้าของธุรกิจอาหารทั้งแบรนด์เล็กและแบรนด์ใหญ่ ตั้งแต่ร้าน Stand Alone จนถึงร้านที่มีสาขาทั่วประเทศนับร้อยนับพัน จากบทบาทของการเป็นผู้ผลิตและผู้ดำเนินรายการอายุน้อยร้อยล้าน ผู้ก่อตั้งและเป็นผู้บริหารบริษัท Production House ทำให้คุณก้องได้พบเจอไอเดียของนักธุรกิจด้านอาหาร ซึ่งหลายแบรนด์ก็สามารถปรับตัวได้ทันท่วงทีในช่วงสถานการณ์ที่ COVID-19 กำลังเกิดขึ้นอยู่นี้ ยกตัวอย่างของแบรนด์ที่ปรับตัวได้เร็วอย่าง Kouen Sushi Bar, กับข้าวกับปลา และเขียง “Kouen Sushi Bar เป็นร้านอาหารญี่ปุ่น ซึ่งบางอย่างคนยังไม่คุ้นชินกับการสั่งอาหารญี่ปุ่นทาง Delivery ในขณะที่ร้านระดับที่มีกว่า 10 สาขาจะต้องสต๊อกของล่วงหน้าเป็นสัปดาห์เป็นเดือน มีของอยู่ในสต๊อกเป็นตัน แต่ Kouen Sushi Bar เข้าใจลูกค้าว่า นอกจาก Delivery แล้ว ตอนนี้หลายคนยังทำ Home Cooking ด้วย จึงเพิ่มการขายวัตถุดิบ Raw Material เช่น ขายเนื้อให้ไปทำสเต็ก ทำชาบูที่บ้าน เพื่อให้สามารถได้กระแสเงินสดเข้ามา และทำให้ธุรกิจอยู่รอดให้ได้ สิ่งนี้ทำให้พยุงได้ แล้วได้ยินข่าวว่าเลือดหยุดไหลแล้วนะ” “เขียง คือร้านใหม่กลุ่ม Zen ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อ Delivery ไม่ต้องนั่งกินที่ร้าน เรียกว่า Delco โดยมีความมาตรฐาน Hygienic เข้มข้น และยังเข้าใจกฎ 100% รวมทั้งเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคใหม่ เขาไปอยู่ใน Location ที่ส่ง Delivery ได้ ตามปั้มน้ำมัน ตึกแถว ไม่ได้อยู่ห้าง ค่าเช่าพื้นที่ก็ถูก พนักงานลดลง” “กับข้าวกับปลา นอกจากจะทำเมนูให้ส่งได้ง่ายขึ้น ยังทำอาหารแช่แข็งที่สามารถนำไปกักตุนได้และยังออกแบรนด์ใหม่ชื่อ เจริญแกง เพื่อทำให้อาหารหลากหลายขึ้นและกินได้ทุกมื้อ หรืออย่างร้านชาบูและสุกี้ ก็มีการทำโปรโมชั่นซื้ออาหารแถมหม้อ นี่คือการปรับตัว” “ตอนนี้สิ่งที่ทุกคนคาดหวังและให้กำลังใจคือ COVID-19 จะหายไป วันที่ทุกอย่างกลับมาเราต้องยังอยู่ ถ้าไม่มีเราอยู่ มันก็ไม่มีธุรกิจให้เดินต่อ คำหนึ่งที่พ่อพระเอกในซีรีส์ Itaewon Class พูดคือ ตราบใดที่ยังมีชีวิตอยู่ ไม่ว่าอะไรก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพราะฉะนั้นต้องอยู่ให้ได้”