
1. เลือกข้าวสารที่ดี
ต้องมีลักษณะขาว ถ้าข้าวมีสีเหลือง แสดงว่าเป็นข้าวเก่า เก็บค้างปี ลดความอร่อยลงไปมาก และข้าวต้องสะอาด มีมาตรฐาน เรียวสวยเต็มเมล็ด
2. เลือกประเภทข้าวให้เหมาะกับอาหาร
- ข้าวหอมใหม่ มียางข้าวทำให้ข้าวมีความหนุ่มหนึบ สามารถทำเป็นข้าวต้ม หรือหุงเป็นข้าวสวยร้อน ๆ ทานคู่กับเมนูแกงต่าง ๆ
- ข้าวขาว คือข้าวที่มีความคงตัวสูง เหมาะกับเมนูที่ต้องผ่านความร้อนมากกว่าปกติ เช่น ข้าวผัด ข้าวราดแกง
- ข้าวหอมสูตรผสม เป็นข้าวที่มีคุณลักษณะของข้าวหอม และข้าวขาวมารวมกัน ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างหลากหลายมากยิ่งขึ้น คุ้มค่ามากขึ้น รังสรรค์เป็นเมนูตามสั่ง ข้าวคลุกกะปิ หรือข้าวมันไก่ก็ได้เช่นกัน
บางจุดข้าวนิ่ม บางจุดข้าวแข็ง ปัญหาที่หลายร้านเจอเพราะเวลาหุงต้องหุงจำนวนเยอะ หุงข้าวหม้อใหญ่ ดังนั้นจะต้องหุงข้าวตรงกับปริมาตรน้ำที่ระบุไว้ในถุง และเมื่อข้าวหุงสุกแล้วควรปล่อยให้ระอุอยู่ในหม้ออีกอย่างน้อย 15 นาที เพื่อให้ข้าวสุกอย่างเต็มที่ สุกทั่วถึง จากนั้นให้คดข้าวขณะที่ข้าวยังร้อนอยู่ เมื่อหุงหม้อใหญ่ ควรซุยข้าว เพื่อให้สุกเสมอกันทั้งหม้อ
4. การเก็บข้าวข้ามคืน
ถ้าจะเก็บข้าวก่อนจะเก็บเข้าตู้เย็น ต้องแน่ใจว่าข้าวเย็นแล้ว ไม่มีไอน้ำ จะสามารถเก็บข้าวได้ในตู้เย็น 2-3 วัน
5. การอุ่นข้าวที่เก็บไว้
เมื่ออุ่นโดยไมโครเวฟ ควรมีฝาปิด หรือหาภาชนะปิดก่อนอุ่น เพื่อไม่ให้ไอน้ำในข้าวไม่ระเหยออกมามากเกินไป จนข้าวแห้ง หรือสามารถถ้วยน้ำเข้าไปอุ่นด้วยเพื่อให้ข้าวไม่แห้ง ส่วนอีกทริคคือ สามารถนำข้าวผสมน้ำส้มสายชูเล็กน้อย แล้วพรมลงบนข้าว ช่วยให้ข้าวคืนรูปได้เร็วและนุ่ม โดยไม่ติดรสเปรี้ยวของน้ำส้มสายชู
ข้าวที่เหมาะกับร้านอาหารที่จะสามารถนำมาทำเมนูได้หลากหลาย ต้องเป็นข้าวที่มีการผสมอย่างลงตัวทั้งข้าวหอมมะลิ ที่ให้ความนุ่ม และข้าวขาวเม็ดสวย ตราฉัตร ข้าวหอมคัดพิเศษ ผสมข้าวหอมมะลิ 70% ข้าวขาว 30% ทำให้ข้าวเมื่อหุงแล้วหอม นุ่มกำลังดี หุงขึ้นหม้อ เหมาะสำหรับหุงเป็นข้าวสวย หรือปรุงเมนูอาหารได้หลากหลาย หุงง่าย คุณภาพได้มาตรฐานเหมือนทุกครั้ง และราคาคุ้มค่า
เลือกซื้อ ตราฉัตร ข้าวหอมคัดพิเศษ ได้ที่ Makro ทุกสาขา หรือ Makro Click