เมื่อเราเลือกเครื่องชงกาแฟให้เหมาะสมกับร้านของเรา และมีคุณภาพในการใช้แล้ว สิ่งที่จะขาดไม่ได้อีกหนึ่งสิ่งก็คือ เครื่องบดกาแฟ เครื่องบดกาแฟมีรูปแบบหลากหลาย การใช้งานที่ต่างกัน แล้วเราควรจะใช้แบบไหน ให้ตรงกับความต้องการ เลือกซื้อเครื่องบดอย่างไร ให้ไม่เปลืองงบต้นทุน makro horeca academy จะช่วยคุณในการแนะนำเครื่องบดกาแฟที่ดีให้คุณเอง
เลือกอ่านได้ตามหัวข้อนี้
เครื่องบดกาแฟมีกี่ประเภท จุดประสงค์หลักของการบดเมล็ดกาแฟ คือ ต้องการรสชาติดี ๆ ของกาแฟสักแก้ว อีกทั้งเครื่องชงแต่ละแบบก็จะต้องใช้ให้เหมาะกับความหยาบละเอียดของเมล็ดกาแฟให้เหมาะสมกันอีกด้วย ซึ่งในการบดกาแฟที่มีประสิทธิภาพต้องทำให้เมล็ดถูกแบ่งให้มีขนาดเล็กลง มีความหยาบและความละเอียดที่พอดี
เครื่องบดกาแฟแบ่งออกได้ 2 ประเภทหลัก ๆ ตามการใช้งาน 1. เครื่องบดเมล็ดกาแฟแบบมือหมุน
- เป็นเครื่องบดเมล็ดกาแฟที่เก่าแก่ ตัวเครื่องทำจากวัสดุไม้ พลาสติก และ เหล็ก เป็นส่วนใหญ่
- นิยมนำมาใช้ทำกาแฟพวกdrip , ต้น
- พกพาไปได้ทุกที่ เพราะไม่ต้องใช้ไฟฟ้า และก็สามารถปรับความหยาบ-ละเอียด สำหรับการชงกาแฟสดแบบต่าง ๆ
- จะมีความเร็วรอบต่ำ ทำให้ลดความร้อนสะสมที่เฟืองบด
- ช่วยรักษาเฟืองบดให้มีความทนต่อการใช้งาน
2. เครื่องบดเมล็ดกาแฟแบบไฟฟ้า
2.1 เครื่องบดเมล็ดกาแฟแบบไฟฟ้าขนาดกลาง-ใหญ่
- สามารถบดได้อย่างรวดเร็ว และทำได้ครั้งละปริมาณมาก ๆ
- สามารถตั้งค่าความละเอียด และเวลาในการชงได้
- เหมาะกับการทำกาแฟแบบ Espresso
2.2เครื่องบดเมล็ดกาแฟแบบไฟฟ้าแบบเล็ก
- ทำระดับความละเอียดได้ไม่มาก
- ยิ่งใช้เวลาบดนาน ยิ่งละเอียด
- แนะนำให้ใช้สำหรับทำ Moka pot และ French Press
ประเภทของเครื่องบดเมล็ดกาแฟ เมื่อแบ่งตามใบมีดและฟันบด
- เครื่องบดเมล็ดกาแฟแบบใบมีด (blade grinder)
- พบได้ที่เครื่องบดเมล็ดกาแฟแบบมือหมุน และ เครื่องบดเมล็ดกาแฟแบบไฟฟ้าขนาดเล็ก
- อาจจะเรียกการใช้ใบมีดแบบนี้ว่า การสับ มากกว่า การบดเมล็ดกาแฟได้
- วัสดุของใบมีดส่วนใหญ่จะเป็นเหล็ก หรือ สแตนเลส เหมาะกับการบดเมล็ดกาแฟ ที่ระดับความละเอียดไม่มาก แม้ว่าเครื่องบดเมล็ดกาแฟแบบมือหมุนจะสามารถปรับระดับความละเอียดได้
- ใบมีดเหล็กส่วนใหญ่มีการชุบคาร์บอน ทำให้มีความแข็งแรงคงทนมากกว่าเหล็กทั่วไป
- เครื่องบดประเภทนี้จะมีราคาถูก แต่ไม่เหมาะนำมาใช้ในร้านกาแฟสด เพราะผงกาแฟที่บดได้จะไม่สม่ำเสมอ, ไม่สามารถปรับความละเอียดได้(อาศัยระยะเวลาในการบดเป็นตัวกำหนดความละเอียด)
- วิธีการรักษา หลีกเลี่ยงความชื้น เพราะมีส่วนทำให้เกิดสนิม และ ถ้าใบมีดไม่ได้รับการกระทบกระแทกจนถลอก โอกาสเกิดสนิมก็จะต่ำกว่าปกติ
- เหมาะกับการชงประเภท Moka pot , French Press, cold drip และ บางเครื่องบดสามารถบด aero-press และ drip/pour over ได้
2. เครื่องบดเมล็ดกาแฟแบบฟันบด (Burr grinder)
- พบได้ที่เครื่องบดเมล็ดกาแฟแบบมือหมุน และ แบบไฟฟ้าขนาดกลาง-ใหญ่
- ข้อดีคือสามารถบดเมล็ดกาแฟในระดับความละเอียดที่มากได้ สามารถบดระดับ espresso ได้ ไปจนถึงระดับความละเอียดหยาบ อย่าง French Press
- สามารถปรับความหยาบ-ละเอียด ได้ตรงเดือยที่อยู่ตรงกลางเป็นรูปเฟือง
- สามารถปรับได้ถึงระดับ ห่างมาก > หยาบ > ห่างน้อย > ละเอียด
- วิธีการทำความสะอาดง่าย ๆ เพียงปรับให้ระยะชิ้นบด 2 ชิ้นห่างกัน แล้วนำแปรงมาปัดทำความสะอาดทุกครั้ง หลังใช้งาน
แนะนำ เครื่องบดกาแฟประเภทฟันบด Burrs 50 mm. มอเตอร์ทรงพลังสำหรับใช้งานภายใน 180W ความเร็วมอเตอร์ 1400RPM ขนาดโถบรรจุเมล็ดกาแฟ 500 g. เลือกบดได้ 3 รูปแบบคือ 1 แก้ว / 2 แก้ว และรับประกันเฉพาะมอเตอร์ 1 ปี คลิกดูเครื่องจริง 3. เครื่องบดเมล็ดกาแฟเฟืองบดแบบกรวย (Conical Burr)
- เฟืองล่างจะเป็นตัวหมุน เฟืองบนจะเป็นตัวปรับระดับขึ้นลง
- ผงกาแฟที่บดออกมาจะได้ผลึก หรือ Particle Size ที่ขนาดใกล้เคียงกว่า Flat Burr
- รสชาติที่ได้จะกลมกล่อม บอดี้ดี ความเปรี้ยวน้อยลง
- ข้อเสีย คือ การปรับระดับความหยาบ ปรับยากกว่า Flat Burr
วัสดุเฟืองบด Ceramic , Steel , Titanium Coated แตกต่างกันอย่างไร ?
Ceramic
- ข้อดี มีความคม เฉือนเมล็ดกาแฟได้ดี เฟืองจะร้อนช้า
- ไม่นำไฟฟ้า
- ทนต่อการใช้งานแบบหนัก ๆ
Steel
- มีความแข็งแรง สึกกร่อนยาก
- สามารถนำไปขึ้นรูปต่าง ๆ ได้ และสามารถยืดหยุ่นได้
- สามารถผสมคาร์บอน ให้เป็นเหล็กกล้าได้ เพื่อทนต่อการกัดกร่อนสูง
Titanium Coated
- เฟืองบดสีทองเป็นโลหะเคลือบไททาเนียม
- มีความแข็งแรงมาก และการสึกกร่อนช้าลง
- ทนความร้อนได้
- ราคาค่อนข้างสูง มีเพียงไม่กี่แบรนด์ที่ผลิต
สรุปแบบไหนดีกว่ากัน ? : ฟันบดแบบเซรามิกจะทนต่อการใช้งานแบบหนัก ๆ อายุการใช้งานจะนานกว่าแบบเหล็ก แต่ข้อจำกัดคือห้ามฟันบดชนเซรามิกเพราะจะทำให้ฟันบดพัง เพราะคุณสมบัติของเซรามิกคือ มีความแข็งเปราะ แต่ฟันบดแบบเหล็กใช่ว่าจะไม่ดี เพียงแต่ว่าฟันบดแบบเซรามิกเป็นเทคโนโลยีใหม่กว่าแค่นั้นเอง เมื่อรู้จักกับประเภทของเครื่องบดกาแฟกันไปแล้ว ต่อมาเราจะแนะนำเครื่องบดกาแฟที่เหมาะกับการใช้งานต่าง ๆ เพื่อการใช้งานให้ถูกต้องและเหมาะสมกัน
เลือกเครื่องบดกาแฟตามประเภทการใช้งาน
-
แนะนำการบดกาแฟด้วยมือหมุนสำหรับผู้ที่ต้องการใช้เวลาและใช้ความพิถีพิถันในการทำกาแฟเป็นพิเศษ อีกทั้งยังต้องมีความเชียวชาญในการทำ มิเช่นนั้น ความหยาบของกาแฟจะออกมาไม่สวยและกาแฟจะมีรสชาติไม่อร่อย
-
แนะนำระบบไฟฟ้า เพื่อความสะดวกรวดเร็ว เครื่องบดกาแฟแบบไฟฟ้าถือว่าตอบโจทย์คนที่ต้องการความรวดเร็วในการบดกาแฟ เพราะสามารถบดได้ครั้งละมาก ๆ
3. แนะนำเลือกแบบปรับได้หลายระดับ หากเน้นความละเอียดสูง สำหรับร้านกาแฟส่วนใหญ่จะใช้เครื่องบดกาแฟขนาดใหญ่ประสิทธิภาพสูงมาพร้อมฟังก์ชั่นการบดระดับต่าง ๆเพื่อความรวดเร็วในการบดเป็นหลัก ยังคงกลิ่นและความสดของเมล็ดกาแฟบดไว้ให้มากที่สุด รวมไปถึงความละเอียดที่มีความแม่นยำสูงทำให้ได้ผงกาแฟสำหรับประเภทกาแฟที่หลากหลายด้วย
แนะนำเครื่องบดกาแฟ สามารถปรับความละเอียดได้หลายระดับที่ต้องการ ได้ถึง 18 ระดับ ตั้งปริมาณบดได้ ครั้งละ
4 – 18 ถ้วย กำลังไฟ 125 วัตต์ ความเร็ว 25,500 รอบต่อนาที กล่องรองกาแฟ จุปริมาณกาแฟบดได้ 32 ถ้วย คลิกดูเครื่องจริง
4. เลือกความละเอียดเป็นพิเศษ สำหรับเอสเปรสโซ่ เนื่องจากต้องการรสกาแฟที่เข้มขั้นตอนการชงต้องอัดผงกาแฟให้แน่นเพื่อสกัดให้น้ำกาแฟไหลผ่านผงที่อยู่ในด้ามชงและต้องไม่ใช่ผงที่บดทิ้งไว้นาน ดังนั้นควรเลือกเครื่องบดแบบไฟฟ้าที่ใช้เวลาบดสั้นและปรับความละเอียดได้ เพื่อคงความสดใหม่และรสชาติของกาแฟไว้นั่นเอง
แนะนำเครื่องบดกาแฟ สามารถบดเมล็ดกาแฟได้อย่างละเอียดเหมาะสม สำหรับเครื่องชงกาแฟเอสเปรสโซแบบใช้ก้านอัด ใช้เฟืองบดขนาด 50 มม. ปรับความละเอียดในการบดได้ถึง 34 ระดับ โถจุเมล็ดกาแฟ 250 กรัม มีการรับประกัน 2 ปี คลิกดูเครื่องจริง
เลือกจากวัสดุใบมีด เพื่อคงรสชาติไม่ว่าจะเลือกแบบมือหมุนหรือไฟฟ้าวัสดุของใบมีดก็เป็นส่วนสำคัญเนื่องจากส่งผลต่อรสชาติของกาแฟไม่น้อย และโดยทั่วไปจะพบว่าผู้ผลิตส่วนใหญ่จะนิยมเลือกใช้ใบมีดที่ทำจากเหล็ก (Steel) เพราะมีความแข็งแรงสึกกร่อนได้ยากแต่สะสมความร้อนซึ่งอาจทำให้เกิดกลิ่นเหล็กได้
แนะนำเครื่องบดกาแฟขนาดใหญ่เหมาะสำหรับร้านกาแฟขนาดใหญ่ ผลิตจากประเทศอิตาลี เครื่องทำงานเงียบ โครงสร้างเป็น Stanless Steel ระบบการปรับความละเอียดเป็นแบบ Stepless (ปรับความละเอียดได้ทุกขนาด)
ด้วยรูปแบบที่มีมาตรฐาน เครื่องบดแบบหมุนเป็นวงล้อ บดด้วยการหมุนตัวของใบมีดเหล็ก วัดปริมาณการจ่ายกาแฟได้ มีระบบ Safety เสียงเตือนเมื่อเครื่องร้อนเกินไป สามารถปรับเบอร์บดกาแฟได้ทั้งหยาบและละเอียดมาก บดได้ 10.5 กิโลกรัม / ชั่วโมง คลิกดูเรื่องจริง