
รายได้เหวี่ยง บางช่วงขายดี บางช่วงเงียบกริบ เพราะอะไร?
1. ลูกค้าคอมเพลนว่ารสชาติอาหารไม่เหมือนเดิมหรือแย่ลง
เรื่องรสชาติอาหารเกิดจากหลายปัจจัย ตั้งแต่เปลี่ยนแม่ครัว-พ่อครัว เปลี่ยนเครื่องปรุง วัตถุดิบ หรือแม้กระทั่งเปลี่ยนสูตรอาหาร ซึ่งปกติไม่ค่อยเปลี่ยนถ้าไม่จำเป็น ดังนั้นต้องหมั่นสำรวจความเห็นลูกค้าเสมอถึงรสชาติอาหารว่าคงเดิมหรือไม่ อีกวิธีแก้คือให้ทำสูตรอาหารที่เป็นมาตรฐานของร้านและจัดพิมพ์เป็นคู่มือเอาไว้ให้ศึกษา แก้ไขปัญหาเรื่องการเปลี่ยนคนทำครัวได้
ศึกษาเรื่องการรักษามาตรฐานอาหารได้ที่ => https://bit.ly/3xB6pcp

2. เปลี่ยนพนักงานบ่อย การบริการไม่คงที่
กว่าจะได้พนักงานที่ทำงานได้แต่ละคน ต้องผ่านการฝึกหัดและเรียนรู้การทำงานในแต่ละส่วนของร้าน ในระหว่างที่ฝึกงานอาจทำให้การบริการไม่ต่อเนื่อง คนที่มาใหม่อาจไม่เก่งเท่าคนเก่า หรือแย่ลงกว่าเดิม
วิธีแก้ไขคือต้องบริหารลูกน้องให้ดี ให้วิธีการจูงใจให้ลูกน้องอยากทำงานกับร้านเรา และจัดทำคู่มือมาตรฐานการปฏิบัติงานเพื่อให้พนักงานใหม่ได้ศึกษา จะช่วยให้การฝึกงานง่ายและรวดเร็วขึ้น
ศึกษาเรื่องการบริหารพนักงานได้ที่ => https://bit.ly/37ZMWY6

3. งานในร้านกับพนักงานไม่สมดุลกัน
ลองดูว่าพนักงานยุ่งเกินไปจนปล่อยให้ลูกค้ารอนานมั้ย หรืองานส่วนใดบกพร่อง เช่น อาหารออกช้า เก็บโต๊ะไม่ทัน รับออเดอร์ช้า เสิร์ฟผิด ฯลฯ ทั้งหมดล้วนส่งผลให้ลูกค้าไม่อยากกลับมาใช้บริการอีก
ดังนั้น การจัดจำนวนพนักงานให้สมดุลย์กับงานในแต่ละแผนกเป็นสิ่งสำคัญ และนอกจากจะสมดุลย์กับจำนวนงานแล้วยังต้องสมดุลย์กับงบประมาณของร้านด้วย
4. ไม่มีโปรโมชั่นตอบโจทย์ลูกค้า
รสมือดี บริการดี ถ้ามีโปรโมชั่นที่ดี จะช่วยดึงดูดลูกค้าได้มากขึ้น แม้ในร้านที่ขายดีมาตลอดก็ควรมีโปรโมชั่นที่ลูกค้าถูกใจเช่นกัน เพราะคู่แข่งพร้อมจะจัดโปรโมชั่นดูดลูกค้าไปจากร้านเราได้ตลอดเวลา
ลองจัดโปรโมชั่นตามเทศกาล เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกถึงความใส่ใจและกระตุ้นการกลับมาใช้บริการได้
ศึกษาเรื่องการออกแบบโปรโมชั่นให้โดนใจลูกค้าได้ที่ => https://bit.ly/3j2HaYZ

5. มีเมนูประเภทเดียว ไม่มีเมนูอื่นให้เลือก
เพราะลูกค้าไม่สามารถกินอะไรซ้ำเดิมได้ทุกวัน จุดนี้ดูจะเป็นจุดอ่อนของร้านอาหารจานเดียวที่มีเมนูเฉพาะ เช่น ร้านข้าวมันไก่ ข้าวขาหมู ข้าวหมูแดง ฯลฯ ซึ่งทำให้ลูกค้าเลือกสั่งร้านอื่น ลองพัฒนาเมนูใหม่จากสิ่งที่มี เช่น ร้านข้าวหมูแดง ลองเพิ่มบะหมี่หมูแดง เพิ่มเมนูเล้งแซ่บ กินคู่กันหรือสั่งต่างหากได้ หรือลองเพิ่มเมนูใหม่ให้หลากหลายขึ้นมาอีกหน่อย เป็นทางเลือกให้กับลูกค้าได้ดี
ศึกษาเรื่องการออกแบบเมนูเพิ่มเติมได้จาก => https://bit.ly/2V2HQUP

6. ขึ้นราคาอาหารบ่อย
การขึ้นราคาอาหารด้วยความจำเป็น เพราะราคาวัตถุดิบหรือค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น เป็นเรื่องที่ลูกค้าเข้าใจได้ แต่การขึ้นราคาบ่อย จะทำให้ลูกค้ารู้สึกไม่ดีกับร้าน รู้สึกว่าร้านผลักภาระให้กับลูกค้าตลอด
วิธีแก้คือต้องบริหารวัตถุดิบให้ดีขึ้น ไม่ให้เหลือทิ้งเน่าเสีย ตัดเมนูที่ขายไม่ออกทิ้งไปช่วยประหยัดวัตถุดิบที่ไม่ได้ใช้ หาวัตถุดิบอย่างอื่นใช้แทนถ้าใช้ได้ เช่นมะนาวแพง ใช้มะนาวผงมาผสมกับมะนาวแท้ลดต้นทุน แต่ถ้าถึงที่สุดแล้วถ้าจำเป็นต้องขึ้นราคาก็ต้องขึ้น แล้วแจ้งลูกค้าถึงความจำเป็นในการขึ้นราคาครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความพยายามในการตรึงราคาที่สุดแล้ว และแจ้งลูกค้าล่วงหน้าว่าจะเริ่มขึ้นราคาตั้งแต่วันไหน
ศึกษาเรื่องการจัดการเรื่องวัตถุดิบแพงได้ที่ => https://bit.ly/3xlRORL

7. ประเมินร้านคู่แข่ง มีจุดเด่นกว่าร้านเราอย่างไร แล้วหาทางแก้ไขปัญหา

8. คุณภาพหรือความอร่อย สู้ร้านในดวงใจลูกค้าไม่ได้

9. ไม่ขยันทำการตลาด
การทำการตลาดนอกจากทำโปรโมชั่นแล้วการโฆษณาก็เป็นเรื่องสำคัญ ถ้าไม่ลงสื่อเป็นประจำลูกค้าจะลืม กลุ่มเป้าหมายใหม่ไม่รู้จักร้าน อย่างน้อยควรลงรูปเมนูอาหาร ลงภาพร้าน แจ้งข่าวโปรโมชั่นลดราคาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ร้านดูมีการเคลื่อนไหวและกระตุ้นลูกค้าให้อยากใช้บริการ
ศึกษาเรื่องการทำการตลาดร้านอาการได้ที่ => https://bit.ly/3GQFN9P