
1. ไม่เสิร์ฟหรือนำเสนอเมนูน้ำเปล่าให้กับลูกค้า
ถ้ามีเครื่องดื่มที่เป็นเมนูเด็ดประจำร้าน เมนูเครื่องดื่มประจำฤดูกาล และคำนวณแล้วว่าได้กำไรดี ให้นำเสนอไปเลย เช่น น้ำมะยงชิดปั่น เฉพาะช่วงมีนาคม-เมษายน น้ำกระเจี๊ยบ-พุทราจีน แก้ร้อนใน ฯลฯ อย่าเพิ่งกลัวว่าลูกค้าจะรำคาญเพราะว่าบางทีลูกค้าก็นึกไม่ออกเหมือนกันว่าจะทานน้ำอะไร และลูกค้าหลายคนก็อยากได้ยินจากปากพนักงานมากกว่านึกเอาเองอ่านเมนูเอง ลองทำใบเมนูน้ำแยกออกมาต่างหากก็จะช่วยได้อีก จะให้ดีติดรูปเครื่องดื่มบนฝาผนังไปเลยช่วยกระตุ้นการสั่งได้ดี
Tips : แต่ถ้าเชียร์ขายไปแล้วสักสองรอบ ลูกค้ายังปฏิเสธและยืนยันว่าจะสั่งน้ำเปล่า ก็อย่าเซ้าซี้มาก จะทำให้ลูกค้าหงุดหงิดได้ การเสนอขายต้องจริงใจ อยากให้ลูกค้าได้ลองเครื่องดื่มดีๆ ที่ร้านเรามี
2. เสนอขายเมนูอื่นเพิ่มเติมถ้ายังสามารถเพิ่มได้
- ยกตัวอย่างร้านสเต็ก ถ้าลูกค้าสั่งสเต็กเป็นจากหลักแล้ว เราสามารถเชียร์ขาย สลัดผัก มันบดอบชีส หรือซุปครีม เพื่อทานคู่กันไปกับสเต็กก็ยังได้
- ร้านข้าวแกงก็เชียร์ขายเพิ่มได้เช่นกัน ลูกค้าอาจจะสั่งกับข้าวราดสองอย่างแล้ว แต่เรายังเชียร์ขายซุปร้อนๆ ไว้ทานคู่กับข้าวสวยซดคล่องคอ เพิ่มเป็นถ้วยเล็กได้อีกถ้วย
- ร้านอาหารทะเล ลูกค้าอาจจะเริ่มด้วยการสั่งปลาทอด กับข้าวผัดปู เราควรเชียร์ขายเมนูน้ำแกง จะเป็นแกงจืด ต้มยำ หรือโป๊ะแตก อาจจะเชียร์ผัดผักเพิ่มอีกเมนู ก็จะเข้าชุดกันพอดี
Tip : แต่การจะเชียร์ขายแบบไม่น่าเกลียดนั้น ต้องไม่เชียร์แบบยัดเยียด พิจารณาซะก่อนว่าจำนวนเมนูกับจำนวนลูกค้าพอดีกันมั้ย ถ้าลูกค้ามาน้อยไม่ต้องเชียร์เยอะนัก เอาที่กะว่าทานกันหมดพอดี เจ้าของร้านควรจัดชุด จับคู่เมนูอาหารที่เข้ากันไว้เป็นลิสต์ แล้วเทรนพนักงานให้รู้จักสังเกตและพิจารณาลูกค้าแต่ละโต๊ะให้ดี
3. เพิ่มยอดขายด้วยของหวาน
ถ้าร้านไหนไม่มีของหวาน ให้ลองคิดเมนูของหวานมาขาย จะเป็นไอศกรีม หรือขนมหวานแบบไทย เช่น กล้วยบวดชี น้ำแข็งไสรวมมิตร ลอดช่อง ทับทิมกรอบ บัวลอย ฯลฯ ก็ดึงดูดใจลูกค้าดี เทคนิคนี้ใช้ได้ทุกร้าน ร้านข้าวแกงก็ทำได้ ร้านอาหารตามสั่งก็ทำได้ ลองทำใบเมนูของหวานแยกออกมา หรือติดภาพของหวานบนผนัง ให้ดูน่ากินก็จะกระตุ้นยอดขายได้เหมือนเครื่องดื่มเช่นกัน
Tip : การเข้าไปเสนอขาย ต้องดูจังหวะให้ดี ถ้าลูกค้ากำลังคุยติดพัน อย่าเพิ่งขัดจังหวะหรือถ้ายังไม่เสร็จจากของคาวก็อย่าเพิ่งเสนอขาย