ปัญหาที่เจ้าของร้านอาหารมักจะเจอกันเมื่อเริ่มทำ Facebook Page ก็คือ หลังจากเปิดเพจของร้านแล้ว มีรูป Profile มีรูป Coverแล้ว โพสต์รูปร้าน รูปอาหาร อะไรต่าง ๆ ก็โพสต์ไปหมดแล้ว คำถามต่อมาคือ แล้วจะโพสต์อะไรต่อดี? โพสต์แบบไหนที่จะทำให้คนติดตามร้านเรา หรือแม้แต่ดึงดูดให้คนเข้าร้านเรามากขึ้นกว่าเดิม
อันที่จริงแล้ว ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเกิดประเด็นคำถามนี้ เพราะความถนัดที่แท้จริงของเจ้าของร้านอาหารแทบทุกคน คือการให้บริการด้านอาหารเป็นหลัก ไม่ใช่การสร้างคอนเทนต์อาหารหรือการทำ Content Marketing แต่เมื่อถามว่า ถ้าเราไม่ถนัดในการสร้างคอนเทนต์แล้ว แบบนี้เราควรจะจ้างคนทำ Content ให้ช่วยทำโพสต์ลงเพจประจำไปเลยดีหรือเปล่า? ใจเย็นไว้ก่อน วันนี้ MHA มีไอเดียในการสร้างคอนเทนต์ในฉบับที่เรียกว่าแม้แต่มือใหม่ก็สามารถมีโพสต์ลง Page ของร้านได้อย่างต่อเนื่องเลยทีเดียว
วัน-เวลา เปิดร้านและปิดร้าน
อันนี้สำคัญมากเพราะหลายคนมักจะโฟกัสที่การลงรูปร้าน ลงรูปเมนูอาหาร ที่สวยงาม แต่ลืมไปว่า ข้อมูลเรื่องการปิด-เปิดร้าน ก็สำคัญไม่แพ้กัน ลองนึกภาพลูกค้ากำลังเปิด Facebook ในมือถือ และกำลังดูโพสต์ของร้านเรา ซึ่งขึ้นแท็กมาใน Feed ต่าง ๆ อยู่ แล้วเกิดสนใจในร้าน แต่ไม่รู้ร้านเปิดกี่โมง ปิดกี่โมง เปิดวันไหนบ้าง ซึ่งหมายถึงผู้อ่านจะต้องละสายตาจากโพสต์ เพื่อคลิกเข้าเพจของร้าน ถ้าต้องการทราบข้อมูลของร้านที่อยู่ในส่วนของ About อีกทีหนึ่ง
ถ้าดูจากขั้นตอนแล้วออกจะยากไปหน่อย สำหรับโพสต์แรกๆ เราสามารถโพสต์แจ้งไปเลยก็ได้ว่าร้านเราเปิดกี่โมง ปิดกี่โมง เปิดวันใดบ้าง ปิดวันใดบ้าง เมื่อโพสต์ประกอบกับรูปเมนูอาหารต่าง ๆ แล้วเล่าเป็น Story สั้นๆของทางร้านก็เป็นไอเดียที่ดีไม่แพ้กัน
ควร : ลองถ่ายป้ายบอกเวลาเปิดปิดร้าน พร้อมกับเมนูในร้าน แล้วเขียนโพสต์กำกับสักหน่อยก็ดึงดูดความสนใจได้ดี
ไม่ควร : แจ้งวันเวลาไม่ตรงกับการเปิดปิดจริง เช่น ร้านปิดวันจันทร์ แต่แจ้งว่าเปิดทุกวัน เป็นต้น
เมนูแนะนำ
ตามหลักจิตวิทยาแล้ว เมนูใดที่เป็นเมนูแนะนำของร้าน เราจะใส่ใจเมนูนี้มากที่สุด จนถึงขนาดเล่าเรื่องของเมนูนี้ได้เป็นอย่างดี และไม่เพียงแต่เราเท่านั้น ลูกค้าเองก็มักจะถามเสมอว่า แต่ละร้านมีเมนูอะไรแนะนำบ้าง ที่เรียกว่า จะต้องสั่งเมื่อมาที่ร้านนี้ ซึ่งจะนำไปสู่การสนทนาชักชวนเพื่อนฝูงของลูกค้าให้มาลองชิม หรือแม้แต่เชิญชวนให้นักรีวิวทั้งหลายติดต่อมาขอรีวิวร้านอีกด้วย โดยทางร้านสามารถโพสต์รูปเมนูแนะนำ ประกอบกับการเล่าเรื่องเกี่ยวกับเมนูนี้ ไม่ว่าจะเป็นแนวคิดของเมนู ความโดดเด่นของเมนูแตกต่างจากร้านอื่น กระบวนการขั้นตอนปรุงอาหาร รวมถึงราคาของเมนูนั้น
ไม่ควร : ลงรูปเมนูแนะนำเฉย ๆ แต่ไม่เล่ารายละเอียดของเมนู ไม่ระบุว่าทำไมถึงเป็นเมนูแนะนำ
การติดต่อร้าน หรือการจองที่นั่ง
หลายคนแปลกใจทำไมเรายังต้องโพสต์เรื่องนี้อีก ในเมื่อเราลงรายละเอียดติดต่อร้านไว้แล้วในส่วนรายละเอียดของเพจ ทั้งนี้เพราะ Feed เรื่องการจองที่นั่งให้ผลในเชิงจิตวิทยาหลายทาง ไม่ว่าจะเป็นการกระตุ้นให้ตัดสินใจใช้บริการ เป็นการแสดงให้เห็นถึงความพร้อมของร้านที่จะต้อนรับลูกค้าขอเพียงลูกค้าติดต่อร้านผ่านทุกช่องทางการสื่อสารที่ลูกค้าสะดวก
เรียกได้ว่าเป็นการอำนวยความสะดวกตั้งแต่กระบวนการสอบถามและจองที่นั่งเลยทีเดียว บางร้านอาจโพสต์กระตุ้นการตัดสินใจของลูกค้า ด้วยหลักจิตวิทยา”ของใกล้หมด” เช่น ยังพอมีที่นั่งเหลือ รีบจองที่ด่วน เมนูนี้ใกล้หมดแล้ว ไปพร้อมกับการโพสต์เรื่องการติดต่อและการจองที่นั่งด้วย
ควร : เลือกพิจารณาเปิดทุกช่องทางติดต่อที่ “ลูกค้า” สะดวก มากกว่ายึดหลักความสะดวกของร้าน ไม่ว่าจะเป็น LINE OA, Messenger, เบอร์โทรศัพท์ หรือ Link สั่งเดลิเวอรี่กับแอปต่าง ๆ
ไม่ควร : ช่องทางติดต่อไม่อัพเดท ติดต่อไม่ได้ เบอร์ยกเลิก ลงเบอร์ ลง Contact ผิด เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เสียรายได้จากการพลาดโอกาสในการขาย เพราะลูกค้าติดต่อเราไม่ได้
ถ้าเปิดเพจมาสักพักแล้ว แต่ตอนนี้ “ตัน”
คิด Content ไม่ออก ไม่รู้จะ Post อะไรดี อะไรที่เบสิคทั้งหลายก็โพสต์ไปแล้ว ทั้งเมนูแนะนำ ทั้งรายละเอียดร้าน ปัญหาอาจจะอยู่ที่ยังไม่มีการวางแผน Content ที่จะลงเพจก็เป็นได้ ในกรณีนี้ขอแนะนำให้ลองวางแผนการลง Content โดยแบ่งเป็นช่วงเวลา และแบ่งเนื้อหาในแต่ละช่วงเวลา ตามขั้นตอนต่อไปนี้
- ทำตารางเนื้อหา โดยแบ่งเป็น เนื้อหาประจำวัน เนื้อหาประจำสัปดาห์ และเนื้อหาประจำเดือน
- ลองกำหนด Content ที่จะลงในแต่ละช่วงเวลา โดยพิจารณาจากความยากง่าย ในการสร้างเนื้อหา ซึ่งเราจะขอยกตัวอย่าง Content ที่น่าสนใจในแต่ละวัน ดังนี้
เนื้อหาประจำวัน ควรเป็นภาพนิ่งหรือคลิปวิดีโอสั้น ถ่ายและตกแต่งได้เองจาก Smart Phone หรือเขียนเนื้อหาได้ไม่ยาวเกินไป ยกตัวอย่างเช่น
วันจันทร์ - เมนูประจำร้าน โดยลงภาพเมนู หรือเมนูพิเศษประจำวัน ใส่ Caption เล่าเรื่องเมนูนั้นสั้น ๆ และโพสต์ขาย เชิญชวนให้มาร้าน
วันอังคาร - ลงภาพบรรยากาศในร้าน จริงอยู่เราอาจจะลงบรรยากาศในร้านไปบ้างแล้วตอนเปิดเพจ แต่บรรยากาศร้านสามารถปรับเปลี่ยน ตกแต่ง เพิ่มเติมได้ตลอดเวลาเช่นกัน ลองเพิ่มต้นไม้ ตุ๊กตา หรือเอาเครื่องดื่ม อาหารไปวางในมุมต่าง ๆ ของร้าน โดยเปลี่ยนมุมไปเรื่อย ๆ อาจเพิ่ม Caption ให้กำลังใจ หรือข้อคิดดี ๆ ในแต่ละวัน แคปชั่นขายของเล็กน้อย
วันพุธ – ถ้าเบื่อลงภาพเมนูอาหารแล้ว ลองลงภาพวัตถุดิบในการทำอาหารดูบ้าง ในส่วนนี้เราสามารถสร้าง Caption ได้หลายแบบ ไม่ว่าจะเป็น การนำเสนอคุณภาพของวัตถุดิบ แสดงความพร้อมในการรับรองลูกค้า หรือหากเป็นวัตถุดิบพิเศษ เราสามารถนำเสนอควบไปกับเมนูพิเศษที่ใช้วัตถุดิบนี้ปรุงเลยก็ได้
วันพฤหัสบดี - ลองโพสต์รูปของพนักงานดูบ้าง เพราะพนักงานก็เป็นส่วนหนึ่งในบริการของร้าน การที่ลูกค้าเห็นภาพพนักงานที่พร้อมจะให้บริการ ทำให้ลูกค้ารู้สึกถึงความเต็มใจและ Service Mind ของพนักงานผ่านโพสต์นั้น รูปแบบการโพสต์สามารถทำได้หลายแบบ ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มพนักงานของร้าน หรือแยกพนักงานออกมาเป็นกลุ่ม กลุ่มพนักงานต้อนรับ พ่อครัว พร้อมโพสต์ในลักษณะ พนักงานพร้อมให้บริการ วันนี้เชฟ/พ่อครัวประจำร้านมีเมนูอะไรพิเศษมาเสิร์ฟบ้าง (ถ่ายคู่กับอาหารเลยก็ได้
วันศุกร์ - วันนี้ควรกระตุ้นยอดขายสักเล็กน้อย ด้วยการโพสต์โปรโมชั่นต่าง ๆ โดยเฉพาะหากร้านของเราเป็นร้านอาหารเย็นด้วยแล้ว ควรโพสต์ข้อเสนอต่าง ๆ หรือแม้แต่เชิญชวนให้มาทานที่ร้าน มาสังสรรค์ ไม่ว่าจะเป็นโปรโมชั่นประจำเดือน หรือโปรโมชั่นตามสถานการณ์ต่าง ๆ ควรลงรูปที่แสดงถึงโปรโมชั่น ไม่ว่าจะเป็นเมนู หรือภาพกราฟฟิกที่มีไฮไลท์เด็ดของโปรโมชั่นนั้น พร้อมลงรายละเอียดและข้อแม้ของโปรโมชั้นใน Caption อีกที อย่าลืมให้เบอร์ติดต่อ เพื่อจองร้านหรือสั่งอาการ รวมถึงช่องทางการติดต่อต่าง ๆ ของร้านลงไปในโพสต์นี้ด้วยเลย
วันเสาร์ – เพื่อช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับร้าน อาจเพิ่มรูปบรรยากาศในร้าน ตอนที่มีลูกค้ามาใช้บริการก็ได้ เพราะการมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการเป็นการการันตีได้ถึงบริการของร้าน ยิ่งถ้ามีลูกค้าจำนวนมากยิ่งทำให้น่าสนใจมากขึ้นไปด้วย แต่ไม่ควรโพสต์ภาพความยุ่งเหยิงวุ่นวาย ควรนำเสนอภาพที่มีลักษณะสดใส อบอุ่น และมีความสุข ทั้งผู้ให้บริการและผู้รับบริการ
วันอาทิตย์ – หากวันนี้เป็นวันหยุดของร้าน อาจโพสต์แจ้งอีกรอบก็ได้ว่าร้านหยุดให้บริการ หรือใช้โอกาสนี้ขอบคุณลูกค้าในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หรือแนะนำโปรโมชั่นประจำเดือนนี้ โดยกระตุ้นการตัดสินใจของลูกค้าด้วยการแจ้งว่าเหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว หากเป็นวันหยุดยาว และร้านไม่ได้ปิด ควรมีการเชิญชวนลูกค้าที่ไม่ได้ออกไปเที่ยวต่างจังหวัด ให้มารับประทานอาหารที่ร้านก็ได้ อย่างไรก็ตาม ตามสถิติแล้วการโพสต์ในวันอาทิตย์มักจะได้ engage น้อย ดังนั้นควรหาเนื้อหาเบาๆ โพสต์ในวันนี้
เนื้อหาที่ยกตัวอย่างมาทั้ง 7 วันนั้น สามารถนำมาโพสต์สลับกัน หรือผสมกันได้ในแต่ละวัน ตามความเหมาะสม หรือหากคิดว่าเนื้อหาในแต่ละวันยังมีความถี่ไม่มากพอ ลองหา Content อื่น เข้ามาเพิ่มได้อีก ไม่ว่าจะเป็นภาพของลูกค้าที่เข้ามารับบริการ (ที่เราขออนุญาตถ่ายรูปลงเพจของทางร้านแล้ว) ภาพการจัดเลี้ยงของลูกค้าที่มากลุ่มใหญ่ ลูกค้า VIP คนดัง หรือเล่นกับสถานการณ์ (Real Time Content) เช่น ให้กำลังใจผู้ที่ประสบกับวิกฤติโควิด-19 มาตรการณ์ของทางร้านต่อวิกฤตินี้
อย่างไรก็ตามควรหลีกเลี่ยงมีมที่สุ่มเสี่ยงต่อการเสียภาพลักษณ์ หมิ่นเหม่ต่อศีลธรรมและกฎหมาย รวมถึงสร้างความแตกแยก เช่น จุดยืนทางการเมือง เรื่องศาสนา และวัฒนธรรม เป็นต้นรวมถึงในระหว่างนี้หากมีเพจรีวิวมารีวิวที่ร้าน เราสามารถแชร์เนื้อหาลงบนเพจเราด้วยก็ได้ หรือแม้แต่ รีวิวเล็ก ๆ ที่ลูกค้ารีวิวในเพจตัวเองก็ตาม
เนื้อหาประจำสัปดาห์
ยังคงเป็นภาพนิ่งหรือคลิปวิดีโอสั้น ถ่ายและตกแต่งได้เองจาก Smart phone ได้เช่นกัน แต่เราสามารถเขียนเล่าเรื่องในลักษณะ Story Telling โดยให้เนื้อหายาวขึ้นกว่าเดิม ยกตัวอย่างเช่น
- ตำนานความเป็นมาของร้าน ในกรณีที่ร้านมีประวัติมายาวนาน โดยเล่าให้อ่านตั้งแต่รุ่นก่อนสืบทอดมาถึงปัจจุบัน เพราะหากลูกค้าเห็นว่าร้านอาหารนี้สามารถสืบทอดจากอดีตมาถึงปัจจุบันได้ ก็พอจะยืนยันถึงรสชาติและบริการของร้านได้ส่วนหนึ่ง
- กว่าจะมาเป็นเมนูเด็ด เล่าเรื่องด้วยภาพหรือวิดีโอก็ได้ ตั้งแต่กระบวนการเตรียมวัตถุดิบ การปรุง การจัดจาน และนำเสนอจานที่พร้อมเสิร์ฟ แนะนำให้ลองถ่ายเป็น VLOG โดยเจ้าของร้านสัมภาษณ์หรือตามถ่ายเชฟตั้งแต่ต้น และนำมาตัดต่อในโปรแกรมสำเร็จรูปก็ได้
- ลองเล่าเกร็ดเล็กน้อยเกี่ยวกับอาหารที่ร้านตามที่ได้สืบค้นมาก็ได้ เช่น ประวัติความเป็นมาของกาแฟ ข้อมูลน่ารู้เกี่ยวกับสมุนไพรในอาหาร ประโยชน์ของเมนูน้ำผักผลไม้เพื่อสุขภาพ โดยเรื่องที่เล่านั้น จะต้องเชื่อมโยงกับอาหารในร้านของเรา และไม่ลืมนำเสนอภาพอาหารจานนั้น ๆ ที่เรากำลังเล่าอยู่ด้วย
ขอแนะนำให้จับเทศกาลในแต่ละเดือนมาสร้างเป็นโปรโมชั่น หรือกำหนดจังหวะการทำคอนเทนต์ในช่วงพิเศษนั้นขึ้นมา เช่น เทศกาลวันแม่ โปรโมชั่นพาแม่ทานที่ร้านรับส่วนลดตลอดเดือนสิงหาคม เทศกาลรับลมหนาวกับเมนูเพื่อสุขภาพรับลมหนาว เริ่มด้วยการโพสต์ภาพกราฟิกแจ้งโปรโมชั่น โดยกำหนด Mood & Tone ให้เข้ากับเทศกาลประจำเดือนนั้น อาจเป็นภาพร้าน ภาพเมนู หรือภาพอะไรที่เกี่ยวข้องกับเทศกาล และลง Caption ให้รายละเอียดโปรโมชั่นนั้นโดยละเอียดอีกที
หรือหากมีทักษะในการถ่ายวิดีโอบ้าง ขอแนะนำให้ลองทำ VLOG สั้นๆ จะเป็นวิดีโอที่รวมเมนูอาหาร หรือรวมภาพลูกค้าในเดือนที่ผ่านมาก็ได้ หรือหากมีทักษะในการถ่ายและตัดต่อวิดีโอ ควรลองสร้างคอนเทนต์วิดีโอที่นำเสนอร้านในมุมที่แปลกตาไป ซึ่งจะสร้างความโดดเด่นให้กับ Feed ได้เป็นอย่างดี
ยังมีอีกหลายเนื้อหา ที่สามารถนำมาสร้างสรรค์ลงเพจได้ เพราะอันที่จริงแล้ว Facebook Page นั้นนอกจากจะเป็นเครื่องมือในการขายแล้ว ยังเป็นช่องทางในการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายเราเช่นกัน ดังนั้น
นอกจากเนื้อหาที่เน้นการขาย เรายังสามารถใช้เป็นช่องทางพูดคุย ติดต่อ หรือโพสต์เนื้อหาสาระต่างๆ ให้ลูกค้าเข้ามาอ่านได้เรื่อยๆ ถือเป็นการทำ Content Marketing อย่างต่อเนื่อง และรักษาความใกล้ชิดกับลูกค้าใน Facebook ไปด้วยอีกทางหนึ่ง ทั้งนี้ สามารถศึกษาแนวคิดในการทำ Content เพิ่มเติมได้จาก
5 แนวคิดครีเอท Content ให้โดนใจลูกค้า และอย่าลืมติดตามบทความการตลาดร้านอาหารที่เว็บไซต์ MHA ในตอนถัดไป
ขอขอบคุณ ภาพและตัวอย่าง Content จากเพจ